เที่ยวไปกับไทแทน ตอนทะเลหมอกที่เขาค้อ

คำถามยอดนิยมที่มักจะมีคนถามผมก็คือ ชอบไปเที่ยวทะเลหรือภูเขามากกว่ากัน ผมคงต้องตอบว่าชอบไปทั้งคู่ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวแล้วได้เจอ ทั้งทะเลและภูเขาในคราวเดียว จะเลือกไปที่ไหนดีนะ

ถ้างั้นผมขอชวนไปเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ดีกว่าครับ ใครจะคิดว่าบนภูเขาสูงๆ ก็มีทะเลให้เราได้ชื่นชมความสวยงามเหมือนกัน แต่เป็นทะเลหมอกนะครับ ตื่นเช้ามาจะมองเห็นไอหมอกขาวปกคลุมยอดเขาบางทีก็ลอยลงมาอยู่รอบๆ ตัวเราจนเหมือนกับเดินแหวกเข้าไปในก้อนเมฆได้ เพราะอากาศที่เย็นสบายแบบนี้เอง ทำให้เรารู้สึกสดชื่นไม่แพ้การไปเที่ยวทะเลเลยล่ะครับ

จริงๆ แล้วภารกิจหลักของการมาเที่ยวเขาค้อครั้งนี้ คือการไปเยี่ยมชมแหล่งปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพราะผมกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนกำลังทำกิจกรรมในโครงการหนอนไหมกันอยู่ครับ คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนจึงชวนกันมาทัศนศึกษานอกสถานที่ เพื่อให้พวกเราได้สัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากโรงเลี้ยงไหมของจริง หนอนไหมที่เราเลี้ยงกันที่โรงเรียนจะมีอยู่สองพันธุ์ ได้แก่ หนอนไหมพันธุ์อีรี่และหนอนไหมพันธุ์นางลาย ลักษณะของหนอนไหมอีรีจะมีลำตัวเป็นสีขาวและมีหนามแหลมๆ รอบตัว ชอบกินใบละหุ่ง ส่วนหนอนไหมพันธุ์นางลาย ลำตัวจะเป็นสีขาวคาดแถบสีดำ ชอบกินใบหม่อน

พอมาดูที่เขาค้อ เราจึงได้ทราบว่าวิธีการดูแลหนอนไหมของที่นี่จะแตกต่างจากที่พวกเราทำมากครับ เพราะต้องเลี้ยงหนอนไหมเป็นจำนวนมาก จึงมีการทำชั้นวางดักแด้เพื่อให้เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เหมือนเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับหนอนไหมเลยล่ะครับ การเลี้ยงหนอนไหมจะต้องระมัดระวังในเรื่องความชื้นมากๆ ดังนั้น คนที่เตรียมใบหม่อนมาป้อนหนอนไหม จะต้องเช็ดใบให้แห้งสนิทและต้องคอยระวังศัตรูของหนอนไหม ทั้งมด แมงมุม จิ้งจกและนกให้ดี ตามปกติแล้วโรงเลี้ยงไหมทั่วจึงไม่เปิดให้คนไปเข้าชมนะครับนอกจากจะได้เยี่ยมชมโรงเลี้ยงไหมแล้ว พวกเรายังได้เที่ยวไร่เที่ยวสวนในเขตเกษตรที่สูงซึ่งนิยมปลูกอะโวคาโด เสาวรส และแมคคาเดเมีย ช่วงนี้กำลังออกผลเต็มต้นพอดี เราเลยได้ปีนท้ายรถกระบะ หิ้วกระบุง เข่งและตะกร้อไปสอยอะโวคาโดกันอย่างสนุกสนาน โดยแบ่งหน้าที่ออกเป็นหน่วยตะกร้อสำหรับสอยผลที่อยู่ด้านบน หน่วยปีนต้นไม้เก็บผลที่อยู่ช่วงกลางๆ ลำต้น และลำเลียงส่งให้หน่วยภาคพื้นดินคอยรับและจัดวางลงในเข่งต่อไป

ต้นเสาวรสจะมีลักษณะเป็นเถา วิธีปลูกคล้ายการปลูกองุ่นเดนิ เก็บทีละลูกได้สบายๆ ส่วนต้นถั่วแมคคาเดเมียก็เป็นต้นไม้ที่ไม่สูงมากนัก เด็กๆ อย่างพวกเราพอจะเอื้อมไปเด็ดลงมาได้เป็นพวงๆ แต่กว่าจะเป็นถั่วเม็ดขาวๆ ที่เรากินกันนี่สิครับ ต้องไปผ่านการกะเทาะเปลือก ผึ่งและอบอีกหลายขั้นตอนเชียวล่ะครับ

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “เที่ยวเขาค้อ 1 คืน อายุยืนขึ้น อีก 1 ปี” ผมก็เห็นท่าจะจริงนะครับ เพราะอยู่ที่นี่แล้วได้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้กินผักผลไม้สดๆ จากไร่ และได้วิ่งเล่นบนท้องทุ่งกว้างอย่างสบายใจ แต่นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้วยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมสนุกๆ รอพวกเราอยู่อีกครับวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ตื่นมากินอาหารเช้าแล้ว เราก็พร้อมสำหรับเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ศาสนสถานที่สร้างขึ้นมาอย่างงดงาม มีการตกแต่งประดับประดาด้วยลูกแก้ว หินสีและกระเบื้องต่างๆ ดูสวยแปลกตาดี ผมกับเพื่อนๆ ขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นบนบริเวณยอดเจดีย์ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะกราบไหว้กันครับ พอมองกลับลงมาก็ได้เห็นปฏิมากรรมพระพุทธเจ้า 5 องค์ซ้อนกันอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก เป็นวิวที่ทุกคนต้องร้อง “ว้าว!” (แต่ใครที่มาเยี่ยมชมในวันที่หมอกหนาจัด อาจจะต้องร้อง “ว้า!”) ผมได้ยินคุณป้าที่ยืนอยู่ใกล้ๆ บอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีได้เห็นภาพสวยๆ แบบนี้หรอกนะ เพราะต้องรอจังหวะที่ฟ้าฝนเป็นใจให้หมอกจางลงพอประมาณอย่างในวันนี้ ผมฟังแล้วก็พลอยรู้สึกดีใจเป็นพิเศษไปด้วย

นอกเหนือจากเรื่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับครอบครัวของผมคือเรื่องกินครับ ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารต้องยกให้คุณพ่อผมอธิบายเพราะเป็น
นักชิมตัวยง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องขนมกับเครื่องดื่มอร่อยๆผมขออาสาแนะนำให้เอง สำหรับการมาเที่ยวเพชรบูรณ์คราวนี้ เมนูเด็ดที่สุดก็คือ  ‘น้ำเผือกปั่น’ ครับ ผมเกิดมายังไม่เคยกินเผือก พอได้ลองครั้งแรกก็เป็นน้ำปั่นเลยสีม่วงอ่อนๆ มีเนื้อกรุบนิดๆ รสชาติหวานอร่อย สมกับที่เป็นร้านโดดเด่นประจำสี่แยก ‘รื่นฤดี’ ดื่มแล้วชื่นใจสมชื่อจนต้องวนมาซื้อวันละหลายรอบเลยล่ะ

ใครอยากอายุยืนหรือสดชื่นอย่างพวกเรา แวะมาเที่ยวเพชรบูรณ์บ้างนะครับ

ติดต่อ

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เปิดทำการ ทุกวัน เวลา 8.00-17.30 น.
พิกัด N16.78924 E101.05031
www.phasornkaew.org

ไร่ภู่จำนงค์
ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ 081-445-7715, 089-002-8733
www.facebook.com/phuchamnongresort