VIVA Alpaca Farm เมืองเคมบูจิ ญี่ปุ่น

VIVA Alpaca Farm เมืองเคมบูจิ ญี่ปุ่น

ผมเชื่อว่าฤดูหนาวเมืองไทยเป็นช่วงเวลาพิเศษสุดที่ทุกคนรอคอย แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาแสนสั้นแค่ไหนก็ตาม ลองคิดดูสิครับ โอกาสเดียวที่จะได้ใส่เสื้อหนาวสุดเท่ ได้รับลมเย็นสบายๆ หายใจออกมาเป็นไอ “ฟู่..ฟู่..ฟู่” แต่สิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดก็คือ อยากจะได้สัมผัสกับปุยหิมะขาวๆ ดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากรู้ว่ารสชาติของหิมะจะอร่อยเหมือนเกล็ดน้ำแข็งไสหรือเปล่า แล้วยิ่งถ้าได้เล่นปาหิมะด้วยนี่คงเป็นความรู้สึกสุดยอดไปเลย!

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

และแล้ว…ฤดูหนาวคราวนี้ ความฝันก็กลายเป็นจริง เมื่อผมมีโอกาสติดตามคุณพ่อคุณแม่ไปทำงานสำคัญที่ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะครอบครัวคนทำนิทานชาวไทยที่ได้รับเลือกให้ไปแต่งนิทานนำเที่ยวจังหวัดฮอกไกโด ผมเริ่มนึกภาพภูเขาหิมะขาวโพลน คนเล่นสกีขึ้นมาทันที แต่เมื่อเดินทางไปถึงจึงพบว่าที่ฮอกไกโดมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจนอกเหนือจากหิมะอีกมากมายเลยล่ะครับ

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นทั้งชื่อจังหวัดและเป็นชื่อของเกาะด้วย คำว่าฮอกไกโดนั้นหมายถึง ‘เส้นทางสู่ทะเลทิศเหนือ’ ที่นี่นับเป็นดินแดนแห่งหิมะ เพราะมีฤดูหนาวยาวนาน มีเมืองซัปโปโรเป็นเมืองหลวง แต่จุดหมายปลายทางของพวกเราคือเมือง ‘เคมบูจิ’ (Kembuchi) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งหนังสือภาพครับ เพราะนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงามดุจภาพวาดแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของหอสมุดซึ่งรวบรวมหนังสือภาพสำหรับเด็กไว้เป็นจำนวนมากถึง 36,000 เล่ม มีอาคารรูปทรงแปลกตาเหมือนไข่โดโนเสาร์ขนาดใหญ่ยักษ์ แต่เจาะรูกลมๆ ไว้เป็นช่องให้แสงสว่างส่องลงมาในห้องได้ พอเข้าไปจึงได้ฟังคุณลุงอาคิโอะ หรือที่เด็กๆ เรียกกันว่า ‘อาคิจัง’ เล่าว่า ห้องรูปทรงประหลาดนี้ตั้งใจออกแบบให้เด็กๆ ได้มานอนกลิ้งอยู่บนลูกกลมๆ ที่ทำจากไม้กว่าหนึ่งแสนลูก เด็กๆ จะรู้สึกสบายเหมือนตอนอยู่ในท้องของแม่ ผมสังเกตเห็นว่ามีเด็กๆ มาใช้บริการหอสมุดแห่งนี้กันเยอะแยะ บางคนก็มาอ่านหนังสือเงียบๆ บางคนก็นั่งฟังคนเล่านิทาน ‘คามิชิไบ’ กันอยู่เป็นกลุ่ม เขาจัดหมวดหมู่หนังสือเอาไว้น่าสนุก เช่น หมวดนิทานเกี่ยวกับอึ หมวดนิทานเกี่ยวกับยานพาหนะ หรือหมวดนิทานชนะการประกวด เป็นต้น

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

ครอบครัวก้อนเมฆของเรารู้สึกปลื้มใจมากที่ทางหอสมุดเตรียมการต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี โดยจัดมุมหนังสือนิทานของก้อนเมฆเอาไว้ให้ นอกจากนี้ ยังจัดเวลาให้คุณพ่อของผมเล่านิทานให้เด็กๆ ชาวญี่ปุ่นฟังด้วย โดยมีคุณลุงสมุทรเจ้าของแฟนเพจ ‘ฮอกไกโดแฟนคลับ’ เป็นล่ามแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ เด็กๆ จึงหัวเราะและตอบคำถามสนุกๆ ไปกับนิทานของเราได้ ถ้าใครแวะไปเที่ยวที่นี่ อย่าลืมมองหามุมนิทานไทยของเราด้วยนะครับ

VIVA Alpaca Farm

VIVA Alpaca Farm

แม้ว่าเคมบูจิจะเป็นเมืองเล็กๆ และมีจำนวนคนอาศัยอยู่ไม่กี่พันคน แต่มีพื้นที่ทำการเกษตรกว้างขวาง พืชผักผลไม้ล้วนมีขนาดใหญ่โตและอร่อย เพราะอากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย (แต่พอถึงช่วงหิมะตกหนักๆ นี่ก็หนาวสุดๆ ไปเลย) นอกจากนี้ ยังมีที่เที่ยวสำหรับครอบครัวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ  VIVA Alpaca Farm ครับ ที่นี่มีเจ้าของเป็นผู้หญิง เธอเลี้ยงดูอัลปาก้าเองทุกตัว โดยแต่ละตัวมีชื่อและนิสัยที่แตกต่างกัน เราให้อาหารและเข้าไปสัมผัสอัลปาก้าได้อย่างใกล้ชิด ผมชอบขนที่พุงของอัลปาก้ามาก เพราะมันนุ่มและหนาจนเอามือซุกแล้วจมหายลงไปทั้งมือเลย ด้วยความน่ารักและเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวนี่เองที่ทำให้เจ้าอัลปาก้าได้รับเลือกเป็น mascot ประจำเมืองเคมบูจิครับ

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหลักแล้ว เจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นก็พาพวกเราออกเดินทางไปเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกหลายแห่ง เพื่อเตรียมการเขียนนิทาน ‘สวัสดี…ฮอกไกโด’ แล้วอย่าลืมตามไปตะลุยกองหิมะด้วยกันที่ภูเขา Asahidake ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ‘หลังคาของฮอกไกโด’ ในตอนต่อไปนะครับ

ที่ตั้ง

VIVA Alpaca Farm (ฟาร์มอัลปาก้า)
Kembuchi, Hokkaido, JAPAN
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 550 เยน เด็ก 250 เยน
โทรศัพท์ +81 165-34-3911
www.viva-alpaca.jp

Ehon no Yakata Kembuchi (หอสมุดภาพเคมบูจิ)
Kembuchi, Hokkaido, JAPAN
เปิดทำการ ทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น. ยกเว้นวันพุธและช่วงปีใหม่
โทรศัพท์ +81 165-34-2624