หอบลูกจูงหมาเที่ยว…เชียงคาน

พูดถึง ‘เมืองเชียงคาน’ เราจะนึกถึงเมืองเล็กๆ ที่ผู้คนยังใช้ชีวิตอย่างช้าๆ ไม่รีบเร่ง สงบเงียบและเรียบง่าย มองเห็นบ้านเก่าๆ ที่ปลูกติดกันริมฝั่งแม่น้ำโขง หวนให้นึกถึงบ้านไม้ต่างจังหวัดของคุณยายที่ไปวิ่งเล่นกันตอนปิดเทอมสมัยคุณแม่ยังเด็ก อยากพาลูกไปเห็นบรรยากาศที่แม่เคยสัมผัสเสียจริง เรื่องที่พักสำหรับมิลค์กี้ไม่น่าเป็นปัญหา

เราออกจากกรุงเทพตั้งแต่เช้ามืด ตั้งใจว่าจะแวะเที่ยวตามที่ต่างๆ แต่ต้องคอยแวะปั้มเพื่อให้มิลค์กี้ได้ลงมาขับถ่ายและเดินเล่นเป็นระยะ พอผ่านอำเภอด่านซ้าย ก็จอดรถขึ้นไปสักการะ ‘พระธาตุศรีสองรัก’ ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมือง ห้ามใส่สีแดงเข้าวัดนี้นะคะ เพราะพระธาตุแสดงถึงสัมพันธไมตรี สีแดงสื่อถึงการสู้รบ คล้ายการนองเลือดจากสงคราม มิลค์กี้ต้องเข้าไปอยู่ในกระเป๋าตลอดเวลาเพราะเราขึ้นไปนมัสการพระธาตุ เกรงว่าจะไม่เหมาะสม

มื้อกลางวันเราแวะกินข้าวที่ ‘อ่างเก็บน้ำหมานตอนบน’ บ้านห้วยกระทิง จอดรถแล้วสั่งอาหารพวกส้มตำ ลาบ น้ำตก ไก่ย่าง ข้าวเหนียว (ถูกใจแม่คนเดียวในคณะ) เมื่ออาหารที่สั่งมาครบเรือหางยาวก็ลากแพเราออกไป กลางน้ำ ถ้าอยากกลับเข้าฝั่งหรือเข้าห้องน้ำ ก็ชักธงขึ้นให้เรือมารับ มิลค์กี้มีกลัวๆ ตื่นๆ นิดหน่อย เพราะแพโยกไปมาแต่ในที่สุดก็ปรับตัวได้ เดินเล่นบนแพอย่างสบายใจจนต้องคอยระวังตกน้ำ ลมเย็นสบายมากๆ อยากนอนเล่นทั้งวัน ถ้าไม่ต้องรีบขึ้นไปเชียงคาน สงสัยหลับกันคนละตื่นแน่ๆ เลย

ถึงเชียงคานตอนเย็นเลยทีเดียว เราจองที่พักชื่อ ‘บ้านอุ่นรักริมโขง’ อยู่ปากซอย 10 เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีห้องพักอยู่ 5 ห้องเท่านั้น จะสังเกตเห็นว่าบ้านเก่าๆ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์เล็กๆ มากมาย มีบางที่พักเท่านั้นนะคะที่ต้อนรับน้องหมา ที่บ้านอุ่นรักเราพักชั้นล่าง (ห้องจะเล็กและแคบกว่าห้องข้างบนอยู่มาก) แต่มีระเบียงด้านข้าง สะดวกกับการพามิลค์กี้ไปเดินเล่นริมแม่น้ำโขง เราเช่าจักรยานขี่เล่นรอบๆเมือง แม่มีมิลค์กี้อยู่ในตะกร้าหน้าจักรยาน มิลค์กี้ขดตัวอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะบางครั้งแม่ต้องปั่นหนีเจ้าถิ่นด้วยความรวดเร็ว ตัวเกร็งกันทั้งคนและหมา เล่นเอาปวดน่องกันเลยทีเดียว เราแวะทานข้าวที่ ‘เฮือนหลวงพระบาง’ ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ ร้านนี้ยินดีต้อนรับน้องหมามาก เชื้อเชิญเราให้นำน้องหมาเข้ามาได้แบบสุดเสียง อิ่มแล้วไปต่อที่ถนนคนเดินซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองเชียงคาน วันเสาร์-อาทิตย์สองข้างทางจะขายของเยอะกว่าวันธรรมดา ทั้งสินค้าออกแบบเองไม่มีใครเหมือน เช่น กระเป๋า เสื้อ รองเท้า และยังมีของกินอร่อยๆ ให้ซื้อกินจนอิ่ม ส่วนมิลค์กี้จะมีโอกาสได้ลงเดินบ้างอุ้มบ้าง ตามแต่โอกาสและสถานการณ์เฉพาะหน้า แนะนำว่าควรอยู่ในสายจูงหรือรถเข็นนะคะ เพราะคนเยอะและมีหมาเจ้าถิ่นด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของตอนเช้าที่เชียงคานคือ ‘ตักบาตรข้าวเหนียว’ ซึ่งเป็นครั้งแรกของครอบครัวเรา แม่นอนไม่หลับ พะวงกลัวตื่นไม่ทัน พระท่านต่างเดินมาจากหลายวัด ตั้งแต่ตี5จนเกือบ7โมงเช้า ควรล้างมือให้สะอาดก่อนไปเพราะต้องหยิบข้าวเหนียวใส่ลงในบาตรพระ จากนั้นเราไปหาของอร่อยกินต่อ นั่นคือข้าวปุ้นน้ำแจ่ว (ขนมจีนน้ำใส ปรุงรสด้วยกะปิและมะนาวพร้อมด้วยพริกตำ) ร้านป้าหวานเป็นร้านเก่าแก่ต้นตำรับ ตั้งอยู่ซอยศรีเชียงคาน 14 (บน) เดินไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ขวามือ อร่อยถูกปากแม่อีกแล้ว ถ้าไม่ได้ชิมข้าวปุ้นน้ำแจ่ว เหมือนมาไม่ถึงเชียงคานนะคะ สายๆ เราจึงเดินทางกลับกรุงเทพ

ออกจากชีวิตช้าๆ ที่เชียงคาน….วิ่งเข้าสู่ชีวิตแบบเร่งรีบที่เมืองกรุงต่อแล้วสิเรา

ที่ตั้ง

ถนนคนเดินเชียงคาน
ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน เลย
พิกัด N17.877805 E101.672277