วัดร่องขุ่น

25/10/201615/12/2016 Sirinapa Fine 4706 Views Travel with kids, วัฒนธรรม, วัด, วัดร่องขุ่น, ศิลปะ, หอบลูกเที่ยว, เชียงราย, เด็ก, เรียนรู้

วัดร่องขุ่น เป็นแลนมาร์คประจำเมืองชนิดที่ว่า ใครไม่ได้มาเห็นเหมือนไม่ได้มาเชียงราย ทั้งที่เพิ่งก่อสร้างในพ.ศ. 2540 นี้เอง ความวิจิตรบรรจงของปูนปั้นที่ประดับอยู่ทุกส่วนของอุโบสถ ฝีมือของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตกรรม) ต่างทำให้คนที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกต้องอุทานว่า โอ้โห ช่างละเอียดและงดงามเหลือเชื่อ

อธิบายแนวคิดการสร้างวัดให้เด็กเข้าใจง่ายๆ ได้ว่า บริเวณทางเข้านั้นเปรียบเหมือนโลกมนุษย์ เราจะต้องเดินข้ามสะพานแห่งวัฏสงสาร อันหมายถึงการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ ของสัตว์โลก ทั้งนรกภูมิเดรัจฉานภูมิและเปรตภูมิ หากหลุดพ้นแล้วจะเข้าไปสู่เขาพระเมรุเปรียบดั่งสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าข้ามสะพานไปแล้วไม่ให้เดินย้อนศรกลับออกมาอีก

ออกจากอุโบสถให้เลี้ยวขวาเดินต่อไปด้านหลังวัดซึ่งบรรยากาศเงียบสงบกว่ากันมาก มีหอพระพิฆเนศเทพแห่งความสำเร็จ องค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างสง่าและน่าเคารพ เส้นสายพริ้วไหวแสดงให้เห็นเอกลักษณ์การออกแบบของอาจารย์เฉลิมชัย ที่มาของการวาดรูปพระพิฆเนศนั้นสืบเนื่องจากอาจารย์ด้านพิธีกรรมท่านหนึ่งเคยบอกท่านไว้เมื่อราว 20 ปีก่อนว่า พ่อปู่พระพิฆเนศให้วาดองค์ท่านแล้วจะทำงานสำเร็จทุกอย่าง แต่อาจารย์เฉลิมชัยก็ไม่ได้สนใจกระทั่งเริ่มสร้างวัดร่องขุ่น มีอาการปวดร้าวบริเวณไหล่และแขนซ้ายรุนแรงเป็นเวลาเกือบหกเดือน กระทั่งตัดสินใจนั่งสมาธิและวาดรูปพ่อปู่จนเสร็จ นำรูปวาดนั้นพิมพ์จำหน่ายที่วัดได้เงินเพื่อสร้างวัดนับร้อยล้านบาท ด้วยความศรัทธาอาจารย์จึงสร้างหอพระพิฆเนศต่อมาภายหลัง รายละเอียดหาอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือที่ระลึกจำหน่ายภายในบริเวณวัด อยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆ เดินออกประตูรั้วด้านหลัง ข้ามถนนไปยังโรงปั้นที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพื่อสังเกตเรียนรู้ขั้นตอนการปั้นชิ้นงานแต่ละชิ้น กว่าจะมาประดับประดาวัดให้สวยอย่างนี้

ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุดเทศกาล เราต้องพบกับกลุ่มทัวร์ที่มารอวัดเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ จากนั้นผู้คนก็จะคราคร่ำทุกจุดตลอดทั้งวัน หากต้องการถ่ายภาพวัดสวยๆ ซึ่งสะท้อนเงาลงในสระน้ำแบบไร้ผู้คน แนะนำให้มาช่วงปิดพักเที่ยง 12.00-13.00 น. ทางวัดจะอนุญาตให้ยืนด้านหน้าสระแต่ไม่ให้เข้าไปบริเวณสะพานและอุโบสถ และถ้าโชคดีก็จะได้เจออาจารย์เฉลิมชัย นั่งหลบมุมอยู่บริเวณหน้าร้านขายของด้านใน คอยเฝ้าดูความเป็นไปของผู้เข้าเยี่ยมชมวัด