2 พิพิธภัณฑ์เด็กห้ามพลาดในขอนแก่น โฮงมูนมัง และ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

2 พิพิธภัณฑ์เด็กห้ามพลาดในขอนแก่น โฮงมูนมัง และ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ชั้นดี เราเพิ่งไปเยือนมาเมื่อหน้าฝน ช่วงพายุเข้าขอนแก่นเต็มๆ น้ำท่วมบ้าง ทางขาดบ้าง ทุลักทุเลพอสมควร โชคดีว่าเดินทางด้วยรถ Isuzu MU-X  มันก็จะลุยๆ หน่อย ไม่ค่อยกลัวน้ำกลัวฝน มารีวิวลงรูปให้ดูค่ะว่ามีอะไรในพิพิธภัณฑ์บ้าง

โฮงมูนมัง

คำนี้เป็นภาษาอีสานค่ะ โฮง แปลว่า ห้องโถงที่มีขนาดใหญ่ มูนมัง แปลว่ามรดกหรือทรัพย์สมบัติ โฮงมูนมังจึงมีความหมายว่า ห้องที่เก็บสมบัติ รวบรวมเรื่องราวที่มาของเมืองขอนแก่น
หน้าตาอาคารด้านนอกและบริเวณรอบๆ อาคารดูเก่าทรุดโทรมไปหน่อย เห็นครั้งแรกชวนให้ลังเลว่าจะเข้าดีไหมนะ เขาเปิดบริการหรือเปล่า ตีตั๋วเข้าไปเถอะค่ะ มีนักเรียนนักศึกษาและหน่วยงานต่างๆ มาเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะแทบทุกวัน สภาพข้างในยังดีอยู่ แอร์เย็นสบายด้วย

โฮงมูนมัง1
เริ่มต้นเรียนรู้ว่าขาวขอนแก่นมาจากไหน สร้างบ้านแปงเมืองอย่างไร

 

โฮงมูนมัง2
อย่าเดินชมเองเลยนะ ให้พี่มัคคุเทศก์อาสา เล่าให้ฟังโดยสรุป รู้เรื่องกว่าเยอะ

 

โฮงมูนมัง3
เปลี่ยนจากคำบรรยายตัวอักษรเยอะๆ เป็นรูปปั้นจำลองฉากต่างๆ

แต่ถ้าตั้งใจอ่านคำบรรยายจะยิ่งรู้เรื่องสนุกขึ้น ตัวอย่างตู้จัดแสดงนี้ อธิบายว่า

ชาวขอนแก่นเชื่อกันว่า อาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ไร้สาเหตุคือการกระทำของผีหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ชาวบ้านจะพาผู้ป่วยไปหา “หมอพื้นบ้าน” ผู้ปัดเป่าความเจ็บป่วย การรักษาก็ต่างกันไป เช่นหมอลำทรง (หมอซง) จะอัญเชิญผีให้เข้ามาอยู่กับตัวหมอ จากนั้นจะมีคนเป่าแคน หมอหรือเจ้าพิธีจะลำแบบหมอลำ เนื้อหาเป็นการขับไล่ผี อัญเชิญผีแถน (ผีชั้นสูง) ให้มาช่วยแนะนำสาเหตุและวิธีรักษาผู้ป่วย

โฮงมูนมัง4
หมอฮากไม้ หรือ หมอสมุนไพร

หมอฮากไม้ หรือ หมอสมุนไพร เป็นผู้ที่มีความรู้ในการรักษาโรคโดยใช้สมุนไพรโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้มกิน ต้มอาบ ฝนกิน ฝนทา สูดดม หรือประคบ การออกเก็บยาของหมอยา เชื่อกันว่า ต้องเก็บในวันอังคาร เวลาเก็บต้องหันหน้าไปทางทิศเหนือ ห้ามมีเงาทับ และต้องบอกกล่าวพระแม่ธรณีเสียก่อน

 

จากฉากจำลองสร้างด้วยงานปั้นดินเป็นตุ๊กตาตัวจิ๋ว เราก็เดินเข้าสู่หุ่นจำลองขนาดเท่าจริงกันต่อ แต่ไม่ทันไร เด็กสองคนที่ตั้งอกตั้งใจฟังพี่มัคคุเทศก์มาตลอดก็วิ่งปรู้ดผ่านห้องนิทรรศการช่วงนี้ไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
“มันเหมือนมีคนมองเราอยู่นะฮะแม่” กาโม่กล่าว

 

 

 

 

 

โฮงมูนมัง

ถนนรอบบึงแก่นนคร อ.เมือง ขอนแก่น
พิกัด 16.419633ม 102.838988
โทร. 0-4327-1173
เปิดทุกวันเว้นวันอาทิตย์ 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

 

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

 

อาจจะมีพื้นที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่ความสำคัญของพิพิธภัณฑ์นี้คือเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นแหล่งขุดพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกในประเทศไทย กระดูกชิ้นที่พบนั้นเป็นกระดูกต้นขาของซอโรพอด ไดโนเสาร์กินพืช ค้นพบโดยอาจารย์สุธรรม แย้มนิยม อดีตนักธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี ขณะสำรวจแร่ยูเรเนียมบริเวณห้วยประตูตีหมา ทีอุทยานแห่งชาติภูเวียง เมื่อพ.ศ. 2519  ค้นพบในขณะที่กำลังยืนปัสสาวะแล้วมองตามไปเห็นกระดูกชิ้นใหญ่ ทีแรกยังนึกว่าเป็นกระดูกช้าง แต่ขนาดใหญ่มาก หนักราว 10 กิโลกรัม ภายหลังจึงได้ส่งนักธรณีวิทยาด้านซากดึกดำบรรพ์มาสำรวจต่อ จึงทราบว่าเป็นกระดูกไดโนเสาร์  มาฟังเหตุการณ์การค้นพบในวันนั้นจากปากอาจารย์เองเลยดีกว่า

ขอบคุณคลิปสัมภาษณ์จาก www.thailandbookofrecords.com

ภายหลังทีมนักสำรวจก็ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์อีกหลายชนิด กระดองเต่า ฟันจระเข้ เกล็ดปลาโบราณ กรมธรณีวิทยาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดขอนแก่น จึงได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงขึ้น

พื้นที่นิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน ปูเรื่องด้วยกำเนิดจักรวาลและวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต ก่อนนำเข้าสู่เรื่องของการค้นพบไดโนเสาร์ในภูเวียง ตรงชั้นล่างนี่มีห้องปฏิบัติการด้านซากดึกดำบรรพ์อยู่ด้วย จากที่เราเคยเห็นห้องทำงานที่มีแต่คอมพิวเตอร์ กับปริ้นเตอร์ ห้องนี้จะดูแปลกตาไปด้วยกระดูกชิ้นใหญ่ๆ เต็มโต๊ะทำงาน ส่วนชั้นบนมีสวนเล็กๆ ที่มีไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ ยืนส่ายหางคำรามโฮกๆ

 

ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ 

ตำบลในเมือง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น
พิกัด N16.678445 E102.266463
โทรศัพท์ 0 4343 8204, 0 4343 8206
เปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

 

 

Leave a Reply