เที่ยวชัยภูมิ เนื้อทรายเฟี้ยว…ภูเขียวปี๋

เที่ยวชัยภูมิ เนื้อทรายเฟี้ยว…ภูเขียวปี๋

วันนี้พ่อก๊อปชวนเด็กๆ เก็บเสื้อผ้าไปเที่ยวป่าที่ไม่เน้นการท่องเที่ยว เอ๊ะ…ไม่เน้นเที่ยวแต่จะไปเที่ยว มันยังไงกันคะแม่ ลูกๆ ถามมาอิชั้นก็ยิ้มนิดๆ แทนคำตอบ (เป็นอันรู้กันว่าแม่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะลูก)

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

จุดมุ่งหมายปลายป่าของเราอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าทางภาคอีสานตะวันตก สมัยก่อนบริเวณนี้มีการบุกรุกทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าสงวนจนเกิดความเสียหายรุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวขึ้นในปีพ.ศ. 2515 (เอ้า..ไช ไช ไช โย โย โย…เสียงสัตว์ป่าที่เหลือพากันร้องก้องด้วยความดีใจ)

ที่นี่ไม่เน้นการท่องเที่ยวแบบครบเครื่องพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก แต่จะให้ความสำคัญกับการศึกษาธรรมชาติเป็นหลัก โดยมีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทางเดินเท้าหรือเส้นทางสำหรับจักรยาน มีหอส่องสัตว์ให้ขึ้นไปดูสัตว์ในมุมกว้างสบายตากับสีเขียวขจีของผืนป่าแบบสุดลูกหูลูกตา และยังมีบังไพรให้เข้าไปนั่งเงียบๆ เพื่อจะแอบดูนกนานาชนิดมาเล่นน้ำกินน้ำในบริเวณที่เรียกกันว่า ‘บ่อน้ำมหัศจรรย์’

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

เด็กๆ เทคะแนนให้กับทุ่งกะมังหรือทุ่งกะละมังเป็นพิเศษ ชื่อนี้ได้มาเพราะบริเวณนี้มีลักษณะเป็นที่ราบทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ประมาณ 800 ไร่ และมีลักษณะคล้ายแอ่งกะละมังนั่นเองค่ะ บริเวณทุ่งจะมีสัตว์ป่าพวกเก้ง กวาง กระจง เนื้อทราย เดินเล่นกันชิลๆ อยู่ทั่วไป พวกเขาดูมีสุขภาพจิตและอารมณ์ดีหน้าตามีน้ำมีนวลไม่เหมือนสัตว์ที่อยู่ในกรงตามสวนสัตว์ทั่วๆ ไป

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

คุณประสิทธิ์ คำอุด เป็นเจ้าหน้าที่สื่อความหมายธรรมชาติ (ไหน…ใครเพิ่งเคยได้ยินชื่อตำแหน่งนี้เป็นครั้งแรกยกมือขึ้น) ย้อนไปหลายปีก่อน คุณประสิทธิ์ยังเป็นเพียงนักศึกษาหนุ่มน้อยปี 1 ที่ได้มีโอกาสมาร่วมพิธีรับน้องที่นี่ และได้เกิดความประทับใจในธรรมชาติรอบๆ ตัวรวมถึงเห็นความตั้งใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่วันนั้นหนุ่มเฟรชชี่จึงตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบจะมาทำงานที่นี่ให้ได้ นับถึงวันนี้คุณประสิทธิ์ก็เป็นเจ้าหน้าที่มาร่วม 18 ปีแล้ว (อย่ารอช้า ช่วยกันปรบมือรัวๆ ให้เลยค่ะ) เด็กๆ ได้ฟังที่มาของสัตว์ต่างๆ ที่เห็นอยู่ในทุ่งกะมังบอกเล่าด้วยนน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

นานมาแล้ว สัตว์ในบริเวณนี้ถูกล่าจนเหลือจำนวนน้อย โดยเฉพาะเนื้อทรายถึงกับสูญพันธุ์กันไปเลยทีเดียว ทว่าต่อมาได้มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ให้มีการปล่อยสัตว์ป่าคืนถิ่น โดยนำสัตว์ต่างๆ ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงมาปล่อยให้ใช้ชีวิตกันเองตามธรรมชาติ มีการสร้างดินโป่งเทียมให้พวกเขา รวมถึงหน้าแล้งก็จะมีการแปลงทุ่งหญ้าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัด (หญ้าอ่อน) ทำให้สัตว์มีอาหารกินกันตลอด เมื่อก่อนใช้วิธีเผาหญ้าแต่พอเห็นว่าทำให้เกิดมลพิษในอากาศจึงได้เปลี่ยนเป็นใช้วิธีตัดหญ้าเพื่อให้แตกยอดอ่อนแทน สัตว์ทั้งหลายพากันออกลูกออกหลานจนกระทั่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าดีใจ รวมๆ แล้วที่นี่มีสัตว์มากถึง 1,000 ชนิด เด็กๆ ดีใจจนออกนอกหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายที่ได้รู้ว่าขณะนี้มีเนื้อทรายจำนวนมากว่า 250 ตัวแล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะออกลาดตะเวนเพื่อปกป้องทรัพยากรในพื้นที่ป่าโดยใช้เวลาครั้งละ 5-7 วันเป็นประจำ ทั้งยังมั่นใจว่าผืนป่าแห่งนี้มีกระซู่อยู่ประมาณ 2 ตัว แม้จะไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ (ครั้งหลังสุดที่เจอก็คือเป็นซากจากการถูกล่าเมื่อปีพ.ศ. 2513 โน่นแน่ะค่ะ) แต่ที่กล้ายืนยันแบบนี้เพราะพวกเขาเจอร่องรอยตีน กองมูล รวมทั้งพบบริเวณที่น่าจะเป็นที่นอนของพวกกระซู่มาโดยตลอดด้วยค่ะ

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

หากอยากพักค้างคืนที่นี่ จะต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอย่างน้อย 15 วันก่อนเข้าพัก ที่พักเป็นเรือนไม้กลางป่าที่มีกวางตัวโตมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ อย่าเผลอใจดีให้อาหารเขาเด็ดขาดนะคะ เดี๋ยวจะติดใจไม่ไปหาอาหารกินเอง ค่าบริการของห้องพักก็ให้พิจารณากันเองค่ะว่าสมควรจะจ่ายเท่าไหร่ดี มีไฟฟ้าปั่นให้ใช้ในช่วงเวลา 18.00-21.00 น. เตรียมอาหารไปทำกินกันเองได้แต่ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง หรือจะให้ทางร้านค้าสวัสดิการจัดเตรียมไว้ให้ก็สะดวกดีแถมอร่อยอีกด้วย

เที่ยวชัยภูมิ

เที่ยวชัยภูมิ

ช่วงฟ้าใกล้มืด เด็กๆ สนุกกันใหญ่กับการช่วยก่อกองไฟบริเวณลานโล่งหน้าบ้าน พอหมดเวลาของไฟปั่นก็พากันมานั่งเบียดรอบกองไฟโดยอ้างว่าแก้หนาวแต่จริงๆ อยากจะหายกลัวจากจินตนาการที่แถมมาพร้อมกับความมืดมากกว่า ใครสักคนชวนให้ช่วยกันแต่งนิทานสดๆ คนละประโยค จนกลายเป็นนิทานที่มีพล็อตเรื่องสุดบรรเจิดและสนุกที่สุด

ดึกแล้วกองไฟเริ่มหรี่แสงลงราวกับง่วงนอน เด็กๆ ชวนกันเข้านอนในห้องที่มืดที่สุด ไม่ว่าจะแข่งกันทำตาโตสักแค่ไหนก็มองไม่เห็นอะไรเลย แต่ในความมืดมิดนั้นความสุขของพวกเราแสนจะเด่นชัด

ที่ตั้ง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
อ.ดอนสาร-อ.เกษตรสมบูรณ์-อ.หนองบัวแดง ชัยภูมิ
การเดินทาง ใช้เส้นทางไปเขื่อนจุฬาภรณ์ เลี้ยวซ้ายจากด่านตรวจปางม่วงไปยังที่ทำการเขตฯ อีก 24 กม.
โทรศัพท์ 08-4334-0043, 08-0199-9212, 0-2561-4292 ถึง 3 ต่อ 711