สงขลา… มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

สงขลา… มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ฉันเคยเจอคนที่สับสนว่า เอ๊ะ…สงขลานี่อยู่หาดใหญ่ใช่มั้ย อาจจะเพราะหาดใหญ่เป็นศูนย์รวมของความเจริญมากมายก็เลยทำให้คนสับสน แต่รู้ไหมว่าปัจจุบันสงขลากำลังถูกผลักดันให้เป็นเมืองมรดกโลกเชียวนะคะ

สงขลา

สงขลา

เรากล่าวอรุณสวัสดิ์ทักทายเมืองสงขลากันที่หาดเก้าเส้ง แสงแรกของวันเริ่มต้นพร้อมๆ กับวิถีชาวประมงบนหาดสวย จากนั้นไปต่อกันที่ย่านเมืองเก่า แวะย้อนอดีตกันที่โรงสีเก่า ‘หับ โห้ หิ้น’ (โรงสีแดง) หลังจากเด็กๆ ได้อ่านข้อมูลที่มาที่ไปของเมืองสงขลาโดยเฉพาะย่านเมืองเก่าจากที่นี่กันแล้วก็ไปสัมผัสของจริงกันเลยค่ะ ย่านเมืองเก่านี้จะมีถนนสายเล็กๆ ขนานกัน 3 เส้นได้แก่ ถนนนอก ถนนใน และถนนนางงาม (ได้ยินชื่อถนนฉันก็รู้สึกว่าช่างเป็นถนนที่เหมาะแก่สตรีเช่นฉันได้ไปทอดน่องโบกมือเก๋ๆ และแจกยิ้มเบาๆ เสียเหลือเกิน) ดั้งเดิมน่ะเขาชื่อถนนเก้าห้อง เมื่อราว 80 ปีที่แล้วทางจังหวัดสงขลาได้จัดประกวดนางงามขึ้นแล้วเผอิญสตรีที่สวยที่สุดในงานนั้นมีบ้านอยู่ที่ถนนเก้าห้อง ผู้คนก็เลยเรียกว่าถนนนางงามแทนชื่อเดิมจนติดปาก

สงขลา

สงขลา

ถนนทั้งสามนั้นจัดเป็นถนนสายวัฒนธรรมย่านใจกลางเมืองเก่า ทั้งวิถีความเป็นอยู่ของผู้คนและตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมไว้ ตัวอาคารบ้างแห่งถึงจะมีการทาสีใหม่กันบ้างแต่โครงสร้างยังไม่เปลี่ยนไปจากอดีต มีทั้งห้องแถวแบบจีนโบราณและตึกสวยคลาสสิคในสไตล์ชิโนโปรตุกีส  แถมทั้งสองฝั่งยังสอดแทรกด้วยอาคารตึกแถวสไตล์จีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนอีกด้วย

สงขลา

สงขลา

แนะนำให้ไปเดินเล่นกันตั้งแต่เช้าที่แดดยังพออุ่นๆ อยู่ นอกจากฉากบ้านเรือนที่มีให้ถ่ายรูปกันเพลินๆ แล้ว ต้องห้ามพลาดแวะถ่ายรูปกับศิลปะแนวสตรีทอาร์ตสวยๆ ตามตรอกซอกซอยด้วยนะคะ และที่สำคัญอีกอย่างในการไปเดินเล่นย่านนี้คือ ห้ามกินข้าวรองท้องหรือกินเอาอิ่มไปก่อนเด็ดขาด เพราะถนนนางงามทั้งเส้นนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารคาวหวานทั้งไทย จีน ฝรั่ง ที่ส่วนใหญ่เป็นอาหารโบราณหากินได้ยากและที่สำคัญอร่อยลืมอ้วนกันเลยล่ะค่ะ

สงขลา

สงขลา

สงขลา

ถ้าอยากเห็นสงขลาแบบ…ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน คือเห็นวิวสวยแบบ 360 องศา ก็ตรงไปที่เขาตังกวนเลยค่ะ การขึ้นเขานั้นมี 2 ทางให้เลือกคือขึ้นลิฟต์โดยสาร ค่าบริการไปกลับ ผู้ใหญ่ 30 เด็ก 20 บาท หรือเดินขึ้นบันไดแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็แค่ 145 ขั้นเองค่ะ และแน่นอนสายเฮลตี้คลีนๆ แบบบ้านเราไม่ลังเลเลยค่ะที่จะวิ่งตรงไปรอขึ้นลิฟต์ (อิอิ) พอขึ้นไปถึงข้างบนก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งตากลมชมวิวรอบทิศทาง (ถ้าไม่ชอบขี้หน้าใครให้แนะนำเขาให้ขึ้นไปช่วงแดดจัดๆ เลยนะคะ) บนยอดเขานอกจากจะมีเจดีย์หลวงซึ่งเป็นเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลาอายุกว่า 700 ปีประดิษฐานอยู่ ยังมีศาลาพระวิหารแดงซึ่งเป็นพลับพลาที่ประทับสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และประภาคารเก่าแก่ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย แล้วแถมยังเอาใจคอเกาหลีสุดๆ ตรงที่มีบริการให้คล้องกุญแจคู่รัก ล็อกเสร็จอธิษฐานขอให้รักกันนานแค่ไหนก็ว่ากันไป เสร็จแล้วก็โยนลูกกุญแจทิ้งลงหน้าผาเป็นอันเสร็จพิธีไม่ต้องบินไปคล้องถึงเกาหลี

สงขลา

สงขลา

มาสงขลาไม่ไปแหลมสมิหลาเขาว่ายังมาไม่ถึง (ลูกๆ ถามว่าเขานี่ใครคะแม่) ที่นี่หาดทรายนุ่มสบายเท้าร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ล้อมรอบอยู่มากมาย มีนางเงือกทองที่ต้องไปถ่ายรูปคู่ให้รู้ว่ามาถึงแล้วนะจ๊ะ มองไปไกลๆ โน่นเห็นเกาะหนูเกาะแมวด้วย ตำนานของนางเงือกและแมวกับหนูแถมหมาให้อีกตัวนั้น เด็กๆ ไปหาอ่านเอาที่แหลมพร้อมมองภาพประกอบของจริงไปด้วยจะได้ฟิลลิ่งมากกว่าอ่านเอาตอนนี้ค่ะ (ได้ยินลูกๆ พึมพำกันว่า…”สงสัยจะขี้เกียจพิมพ์” ไม่รู้พูดถึงใคร) ช่วงเย็นลมดีแดดอ่อน คู่ควรแก่การนั่งรอดูพระอาทิตย์ตกน้ำต๋อมแต๋มมากๆ

สงขลา

สงขลา

นอกจากทะเลน้ำเค็มแล้วก็ยังมีทะเลสาบสงขลาอีกด้วยนะคะ กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่างมีเกาะยอตั้งอยู่ จากเกาะยอไปตำบลเพื่อนบ้านก็มีสะพานติณสูลานนท์หรือสะพานป๋าเปรมเชื่อม ถือว่าเป็นสะพานคอนกรีตข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเชียวนะคะ (สมัยก่อนออกข้อสอบบ่อยมาก) ที่เกาะยอมีบริการเรือนำเที่ยวดูวิถีชีวิตชาวประมงชาวสวนชาวไร่ งานอาชีพของแม่บ้านต่างๆ มีกระชังเลี้ยงปลากระพงขาวอยู่มากมาย มาถึงแล้วห้ามพลาดชิมเมนูปลาทั้งหลาย ที่ทั้งสด หอม หวาน เนื้อนิ่มจนแทบละลายในปาก ถ้าติดใจบรรยากาศเขาก็มีบริการโฮมสเตย์ให้กินอิ่มนอนสบายอีกด้วย

เรื่องราวในอดีตผสมกับความทันสมัยเติมด้วยความสบายของธรรมชาติ เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมของเมืองสงขลา มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยค่ะ

ที่ตั้ง

เกาะยอ
พิกัด N7.158467 E100.556458

เขาตังกวน
พิกัด N7.209772 E100.589370

ย่านเมืองเก่า
พิกัด N7.193942 E100.589425