ลำปาง…ยังหวานอยู่

ลำปาง…ยังหวานอยู่

เหตุที่ลำปางยังไม่คลายความหวานนั้น เป็นเพราะ…ไม่ว่าวันเวลาจะหมุนผ่านไปนานเท่าไร ที่นี่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เรายังคงมองหาอดีตสวยงามแบบเดิมที่มีมาช้านาน ได้เกือบทุกสถานที่ของเมืองลำปาง

ตามท้องถนนในเมืองจะมีเสียงรถม้าวิ่งกุบกับๆ ในจังหวะเท่ากันทุกฝีก้าว เมื่อย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 การเดินทางด้วยรถยนต์มีเฉพาะในเมืองหลวง รถม้าคันแรกของลำปางจึงต้องซื้อมาจากกรุงเทพ ในสมัยนั้นทั่วทุกภาคของประเทศไทยต่างนิยมเดินทางหรือขนส่งสินค้ากันด้วยรถม้า ต่อมาเมื่อความทันสมัยและรถราเข้ามาอำนวยความสะดวก เมืองต่างๆ ก็เลิกใช้รถม้าเหลือเฉพาะที่ลำปาง (แม้ปัจจุบันจะมีเพียงนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่ใช้บริการก็ตาม)  สถานีรถม้ากระจายอยู่ทั่วเมือง และมีราคากำหนดไว้เหมือนกันว่าจะไปที่ไหน นานเท่าไร และอย่าลืมตกลงกับเจ้าของม้าก่อนด้วยว่าอยากแวะถ่ายรูปที่ใดบ้าง ส่วนใหญ่เจ้าของรถม้าจะยึดอาชีพนี้มานาน เด็กๆ อย่าลืมชวนให้คุณอาคุณลุงเล่าความหลังสนุกๆ ให้ฟังด้วยล่ะ

ตื่นเช้าเดินเรื่อยๆ ไปตลาดเช้า หาอะไรรับประทานเหมือนคนที่นี่น่าจะอร่อยและเพลินกว่ารสชาติของอาหารเช้าที่เราคุ้นชิน หรือจะแวะร้านขายปลาสดซื้อปลาไปปล่อยที่แม่น้ำวังที่อยู่ใกล้ๆ ตลาด ก็ช่วยสร้างความสุขเล็ก ๆ ในหัวใจได้ไม่เลวเลยทีเดียว (ส่วนลูกๆ ฉันต่างก็รู้ทันว่าวันนี้ฉันไปปล่อยปลาเพราะสำนึกผิดที่เมื่อคืนเมามันกับการฟาดยุงไปหลายชีวิต)

ใกล้ตลาดเช้า มีสะพานรัษฎาภิเศกหรือสะพานขาว (ขาวสมชื่อจริงๆ) มีเครื่องหมายไก่ขาวและครุฑหลวงประดับไว้ตรงหัวสะพาน สะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษกรัชกาลที่ 5 เป็นสะพานเก่าแก่ที่สวยงาม และยังผ่านสงครามโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง

เพราะเคยเป็นดินแดนอันรุ่งเรืองของอารยธรรมล้านนา ลำปางจึงมีวัดวาอารามสวยงามอยู่หลายแห่ง เช่น วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามที่มีอายุนับพันปี และเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เป็นเวลานานถึง 32 ปี ส่วนวัดศรีชุมก็ถือเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นอกจากรถม้าแล้ว ชามตราไก่ก็ชวนให้นึกถึงลำปางอีกด้วย เหตุที่ไก่ถูกเลือกให้เป็นเครื่องหมายดวงตราประจำจังหวัดนั้น มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า พระอินทร์ทรงเกรงว่าชาวบ้านจะตื่นไม่ทันตักบาตรพระพุทธเจ้า จึงได้เนรมิตรไก่ขาวให้ขันปลุกชาวบ้านนั่นเอง พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ถึงขั้นตอนการผลิตชามตราไก่แบบโบราณดั้งเดิม มาจนถึงกรรมวิธีผลิตในปัจจุบันโดยมีพี่วิทยากรพาเข้าชมเป็นหมู่คณะ และยังมีกิจกรรมให้วาดลวดลายบนภาชนะต่างๆ ตามความชอบ วาดเสร็จแล้วจะฝากให้เขาเผาให้ก็ได้แล้วค่อยส่งกลับมาให้เรา แต่เน้นที่อยู่ดี ๆ ล่ะ เพราะลูกฉันได้ช้างที่เพ้นท์โดยฝีมือของเด็กชายโต๊ะข้างๆ มาแทนของตัวเอง ถือเป็นของที่ระลึกจากฝีมือเด็ก ๆ (หรืออดีตเคยเป็นเด็ก) ที่มีอยู่ชิ้นเดียวในโลกจริงๆ

เย็นย่ำวันเสาร์และอาทิตย์ อย่าพลาดไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินกาดกองต้า บริเวณตลาดเก่าริมแม่น้ำวัง (ช่วงนี้กรุณาใส่เสียงเหมือนคุณครูประวัติศาสตร์ด้วย) สมัยก่อนผู้คนมักนิยมสร้างบ้านเรือนอยู่แถวริมน้ำเพราะสะดวกต่อการเดินทางและการประกอบอาชีพค้าขาย ขนส่งสินค้ากับประเทศต่างๆ บ้านเรือนบริเวณนี้ก็เลยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลายทั้งแบบตะวันตก พม่า ไทใหญ่และจีน กาดกองต้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้าทำมือ อาหารพื้นบ้าน สินค้าที่ระลึก ลานกิจกรรม ซึ่งจะเปิดถึงราว 4 ทุ่มค่ะ

ไม่เฉพาะแต่บ้านเมืองที่มีอดีตนะคะ คนเรานี่ก็ความหลังเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งหวานทั้งขมหรือจะตัดด้วยความเปรี้ยวนิดเค็มหน่อย อืม…ก็กลมกล่อมดีว่าไหมคะ

ที่ตั้ง

พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี
543 ม.1 ต.กล้วยแพะ อ.เมือง ลำปาง
พิกัด N18.279433 E99.512138
โทรศัพท์ 0-5435-4011 ถึง 2 ต่อ 103, 08-8138-0244
เปิดบริการทุกวัน 9.00-17.00 น.
www.dhanabadee.com

ถนนคนเดินกาดกองต้า
ถ.ตลาดเก่า ต.สวนดอก อ.เมือง ลำปาง
พิกัด N18.290895 E99.498138
เวลาทำการ เสาร์-อาทิตย์ 17.00 -22.00 น.
www.facebook.com/kardkongta